สิ่งที่เราได้รับจากดนตรี
พื้นฐานเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกอาชีพ ดนตรีก็เช่นกัน “ตัวโน๊ต” เป็นภาษากลางของดนตรี ที่คนเรียนดนตรีต้องเข้าใจ เช่น โน๊ตตัว “C” หรือที่เรียกว่า “โด” การเขียนโน๊ตบนบบรทัด 5 เส้น ของกุญแจต่างๆอยู่ตรงไหน และ โน๊ตตัว C ในเครื่องดนตรีต่างๆเล่นอย่างไร ต่อมา “จังหวะ” ดนตรีแต่ละแนวจะมีจังหวะ ช้า เร็ว แตกต่างกันไป ในภาษาดนตรีจะมีการอ่านค่าของจังหวะที่ชัดเจน เช่น โน๊ตตัวดำมีค่าเท่ากับ 1 จังหวะ โน๊ตตัวขาวเท่ากับ 2 จังหวะ ถัดมาที่เรื่องของอารมณ์เพลง หลายๆคนที่พูดถึงการเล่นดนตรีหรือร้องเพลง มักจะพุ่งเป้าไปที่อารมณ์เพลงก่อน โดยลืมนึกถึงส่วนประกอบพื้นฐานของเพลงไป “เข้าใจจังหวะของเพลงและเล่นโน๊ตเพลงๆนั้นให้คล่องก่อนหรือ จำเนื้อเพลงจนขึ้นใจ” ทำสิ่งที่เป็นพื้นฐานนี้ให้คล่องแคล่ว แล้วค่อยมาวิเคราะห์ในเรื่องของอารมณ์เพลง ในเพลงช่วงไหนควรดังควรเบา เพลงนี้สื่อถึงอะไรความรู้สึกที่เล่นประมาณไหน ลำดับถัดมาคือฝึกฝน “พรสวรรค์ อาจทำให้ความสำเร็จง่ายขึ้น แต่การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ความสำเร็จนั้นเกิดขึ้น” ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จด้านดนตรี การฝึกฝนอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งที่สำคัญ ดนตรีสามารถเสริมสร้างทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้น อย่างแรกคือ การสื่อสารกับครูผู้สอน คุณครูและนักเรียนจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในคลาสการเรียนการสอน หรือจะเป็นการที่ได้พบเจอเพื่อนๆ ก็จะต้องเรียนรู้ การสนทนา,การปรับตัวเข้าหาผู้อื่น,การวางตัวในสังคมและมารยาทในการพูดคุยกับผู้อื่น สิ่งเหล่านี้น้องๆจะได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคมกับเพื่อนๆที่รักดนตรีเหมือนกัน สำหรับนักดนตรี การได้แสดงอยู่บนเวทีและมีคนชื่นชมน่าจะเป็นความสุขอย่างอธิบายไม่ได้ ก่อนที่จะรวบรวมความกล้าก่อนขึ้นเวทีได้ ทุกคนจะมีความไม่มั่นใจและความกลัวต่างๆที่อยู่ในใจ ซึ่งความกังวลของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป ดนตรีมีความพิเศษที่สามารถเป็นแรงผลักดันสำหรับคนที่รักในเสียงเพลงให้มีความกล้าที่จะก้าวข้ามผ่านความกลัวของแต่ละคน ความมั่นใจก่อนขึ้นไปแสดงมีหลายปัจจัยคือ “ความอยาก” หรือความฝันที่ได้ขึ้นโชว์ แต่บางครั้งสำหรับเด็กๆอาจจะเป็นของรางวัลในการขึ้นแสดง “ความมั่นใจ” ต้องฝึกซ้อมมากพอจึงจะเกิดความมั่นใจ “ความพยายาม” อุปสรรคมีไว้ก้าวข้าม ความท้อระหว่างซ้อมมีเสมอหากมีความพยายามมากพอ สักวันสิ่งที่ตั้งเป้าไว้จะต้องสำเร็จแน่นอน และสุดท้ายองค์ประกอบเหล่านี้รวมกันถึงจะเกิดความกล้าแสดงออกอย่างมั่นใจในขณะที่แสดงบนเวที การมีความสุขกับดนตรี เป็นสิ่งที่มนุษย์รู้สึกอยู่ในใจแต่หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ อาจจะชอบเมโลดี้ของเครื่องดนตรีบางชนิด เสียงเพราะๆของนักร้องที่ชอบ หรือเป็นเสียงประกอบจากภาพยนตร์ที่ชอบดูซ้ำไปซ้ำมานับครั้งไม่ถ้วน การฟังเพลงที่ชอบในจังหวะที่ใช่ทำให้เกิดความสุขไปกับดนตรีได้อย่างแท้จริง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่สร้างความสุข การได้เห็นพัฒนาการด้านดนตรีของตนเองก็เป็นความสุขของคนที่มาเรียนดนตรีอีกรูปแบบหนึ่ง บางคนมีความสุขกับการได้มีโอกาสขึ้นแสดงบนเวที ชอบที่จะได้แสดงออกความรักของตนเองที่มีต่อเสียงดนตรีผ่านเสียงเพลงให้ผู้อื่นได้ฟัง หรือจะเป็นเสียงปรบมือจากผู้ชม ความสนุกและ “ความสุขกับเสียงดนตรีผ่านกิจกรรมในห้องเรียนที่สนุกสนานจะนำพามาซึ่งความรู้และความสุขไปกับเสียงของดนตรี” เขียนโดย ครูเพิร์ธ จาก Perth Music Houseเสริมสร้างพัฒนาการพื้นฐานทางดนตรี
สมาธิที่ดีขึ้น
มนุษย์เรามักจะมีสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ไม่ชอบอยู่เสมอ หากได้ลงมือทำในสิ่งที่ชอบก็จะมีสมาธิและจดจ่อกับสิ่งนั้นเป็นพิเศษ สำหรับดนตรี “สมาธิ” เป็นส่วนประกอบสำคัญไม่แพ้พื้นฐานทางด้านดนตรี เมื่อเรารักและมีเป้าหมายในการเล่นดนตรีที่ชัดเจน เช่น ต้องการที่จะเล่นเพลง A ให้ได้ดี ก็จะต้องฝึกฝนบ่อยๆจนกว่าจะสามารถบรรเลงเพลงนั้นได้คล่องแคล่ว ในขณะที่ซ้อมเพลงซ้ำไปซ้ำมา หากเราซ้อมต่อไปเรื่อยๆเป็นเวลานานๆจะสามารถสร้างสมาธิของเราให้มีมากขึ้น
การเข้าสังคม
มีความกล้าแสดงออก
มีความสุขกับดนตรี